วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
14 พ.ย. 67 - 17 พ.ย. 67 | 14,999 บาท | 3,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
21 พ.ย. 67 - 24 พ.ย. 67 | 14,999 บาท | 3,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
28 พ.ย. 67 - 01 ธ.ค. 67 | 14,999 บาท | 3,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
04 ธ.ค. 67 - 07 ธ.ค. 67 | 16,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
05 ธ.ค. 67 - 08 ธ.ค. 67 | 16,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
07 ธ.ค. 67 - 10 ธ.ค. 67 | 16,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
08 ธ.ค. 67 - 11 ธ.ค. 67 | 16,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
12 ธ.ค. 67 - 15 ธ.ค. 67 | 15,999 บาท | 3,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
19 ธ.ค. 67 - 22 ธ.ค. 67 | 15,999 บาท | 3,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
26 ธ.ค. 67 - 29 ธ.ค. 67 | 17,999 บาท | 3,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
28 ธ.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67 | 18,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
29 ธ.ค. 67 - 01 ม.ค. 68 | 19,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
30 ธ.ค. 67 - 02 ม.ค. 68 | 19,999 บาท | 4,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
04.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบิน THAI AIR ASIA (FD) มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
06.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยสายการบิน THAI AIR ASIA (FD) เที่ยวบินที่ FD642 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง)
*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน
ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบินเป็นผู้กำหนด
08.30 น. เดินทางถึง สนามบินโหน่ยบ่าย กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม (เวลาท้องถิ่นที่เวียดนามเท่ากับประเทศไทย)
หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และรับสัมภาระเรียบร้อย หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และรับสัมภาระเรียบร้อย นำท่านเดินทางสู่เมืองลาวไก ของประเทศเวียดนาม ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานของประเทศจีน เป็นจุดทำการค้าที่สำคัญ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชม.)
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (เมนูเฝอ เวียดนาม)
เดินทางถึง ตลาดชายแดนเวียดนาม-จีน เป็นตลาดที่อยู่ติดกับชายแดนระหว่างเวียดนามและจีน ตลาดแห่งนี้มีสินค้าของเวียดนามและจีนให้ได้เลือกซื้อ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น อิสระในการเลือกซื้อสินค้า
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาปา (SA PA)ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศเวียดนามใกล้กับชายแดนจีน อยู่ในเขตจังหวัดลาวไก ตัวเมืองตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งปลูกผักและผลไม้เมืองหนาวที่สำคัญของเวียดนาม อีกทั้งยังเป็นดินแดนแห่งขุนเขาที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในเวียดนามอีกด้วย ในอดีตเมืองนี้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศส สมัยที่เวียดนามเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชม.)
นำท่านชม โบสถ์หินเมืองซาปา (STONE CHURCH) เป็นอีกแลนด์มาร์คที่สำสัญของเมืองซาปา ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบเมืองซาปา ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองซาปา โบสถ์หินสร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศษ ช่วงที่ชาวฝรั่งเศษเข้ามาเป็นเมืองอาณานิคม ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้และยังคงใช้งานในพิธีมิสซา จนถึงปัจจุบัน
จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง ตลาดเมืองซาปา ให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกและของฝากต่างๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และนอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ อิสระเลือกซื้อตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารเย็น (เมนูหม้อไฟปลาสเตอร์เจี้ยน ปลาแซลม่อน + ไวน์แดงดาลัด)
ที่พัก SAPA HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หมายเหตุ : หากเกิดกรณีที่มีการประกาศปิดให้บริการกระเช้าไฟฟ้าตามประกาศของทางฟานซิปัน ทำให้เกิดการปิดกระเช้าเนื่องจากสภาพแวดล้อม อากาศ การปิดบำรุงซ่อมแซม รวมถึงการจำกัดคนขึ้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมไปยังสะพานกระจกแก้วมังกรเมฆ(RONG MAY GLASS BRIDGE) แทน หรือสถานที่อื่นแทนตามความเหมาะสม
นำท่านเดินทางไปยังสถานีรถราง (SAPA STATION)รถรางเมืองซาปา (MUONG HOA TRIAN) สไตล์ยุโรป จากสถานีซาปา เพื่อไปยังสถานีกระเช้าขึ้นยอดเขาฟานซีปัน ด้วยระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามระหว่างทางที่รถรางวิ่งผ่านหุบเขา
นั่งกระเช้าเพื่อขึ้นยอดเขาฟานซิปัน (CABLE CAR) ซึ่งเป็นกระเช้า 3 สายแบบไม่หยุดพักที่ยาวที่สุดในโลกโดยมีความยาวถึง 6,292 เมตร หรือประมาณ 6 กิโลเมตร ระหว่างนั่งกระเช้าท่านจะได้เพลินเพลินและชมวิวด้านล่างแบบพาโนรามา สู่ยอดเขาฟานซิปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเวียดนามและในภูมิภาคอินโดจีนบนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,143 เมตร จนได้รับการขนานนามว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน (ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที)
เดินทางสู่ ยอดเขาฟานซิปัน (FANSIPAN) ท่านจะได้พบกับแลนด์มาร์คจุดสูงท่สุดของภูมิภาคอินโดจีน จนได้ชื่อว่าเป็นหลังคาแห่งอินโดจีน ท่านจะได้ชมวิวยอดเขาแบบพาโนราม่า 360 องศา ที่แวดล้อมไปด้วยวิวทะเลหมอกและภูเขาที่ทอดยาวมาจากมณฑลยูนนานในประเทศจีน พร้อมสัมผัสกับอากาศหนาวเย็น (ไม่รวมค่ารถรางขึ้น-ลงยอดเขา 500บาท/ท่าน)
กลางวัน บริการบุปเฟต์อาหารกลางวันบนฟานซิปัน
จากนั้นนำท่านเช็คอินแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของซาปา โมอาน่า ซาปา คาเฟ่ (MOANA SAPA CAFÉ) จำลองไฮไลท์ของที่เที่ยวแต่ละที่มารวมไว้ให้ท่านได้ถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ให้ท่านอิสระเลือกซื้อเครื่องดื่ม และเพลิดเพลินกับสายหมอกจางๆ พร้อมกับบรรยากาศสุดฟิน อิสระให้ถ่ายภาพตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านต่าฟาน (TA VAN VILLAGE) เพื่อเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขา และชมแปลงนาข้าวแบบขั้นบันได ที่สวยงามกว้างสุดลูกหูลูกตา นาขั้นบันไดถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกหนึ่งแห่งของเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม โดยในช่วงทำนาข้าวจะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน - เดือนตุลาคม แปลงนาเขียวขจี ตัดกับท้องฟ้าสีคราม และมีหมอกลอย เป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามอย่างมาก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก SAPA HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ กรุงฮานอย (HA NOI) เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ให้ท่านอิสระพักผ่อนชมวิวบนรถ ระหว่างทางนำท่านแวะชม ร้านเยื่อไผ่ ซึ่งเป็นร้านขายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเยื่อไผ่ ที่มีคุณสมบัติในการซับน้ำ ซับกลิ่น ได้เป็นอย่างดี โดยสินค้าที่น่าสนใจมี ครีมย้อมผมธรรมจากถ่านไผ่ ชุดชั้นในจากเยื่อไผ่ หมวกคลุมซับน้ำ และ แผ่นรัดบรรเทาอาการปวดเมื่อย เป็นต้น จากนั้นนำท่านชม วัดเฉินก๊วก (TRAN QUOC PAGODA) เป็นวัดที่อยู่ใจกลางเมืองของเวียดนาม ใกล้ชิดกับ ทะเลสาบตะวันตก ของเมืองฮานอย สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณ มีความร่มรื่น และบรรยากาศดี จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งที่ชื่นชมความงามและมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นเจดีย์ที่สำคัญและเก่าแก่ของชาวเวียดนาม สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 แต่เดิมใช้ชื่อ KHAI QUOC และได้มาเปลี่ยนเป็น TRAN QUOC ในศตวรรษที่ 14 โดยจักรพรรดิ LE HUY TONG การสร้างเจดีย์แห่งนี้ ใช้ศิลปะที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและเวียดนาม มีความสูง 15 เมตร มีทั้งหมด 11 ชั้น แต่ละชั้นจะมีลักษณะเหมือนกัน จากชั้นล่างถึงชั้นบน ต่างเพียงจะมีขนาดเล็กลงตามความสูง ที่ช่องหน้าต่างของแต่ละชั้นจะเป็นที่ประดิษฐานของประติมากรรมพระพุทธรูป อมิตาภพุทธเจ้า ตามความเชื่อของพุทธมหายาน ซึ่งมองเห็นเด่นชัดจากภายนอก ไล่เลียงขึ้นไปตรงกัน ตัวเจดีย์ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง โชว์ให้เห็นการซ้อนของอิฐ ชั้นล่างด้านหน้าจะมีแท่นสำหรับให้นักท่องเที่ยวบูชา ภายในมีจารึกประวัติความเป็นมาทั้งของเจดีย์และพระศรีศากยมุนีปางปรินิพพานที่ทำด้วยทองคำ
นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า สุสานโฮจิมินห์ (HO CHI MINH MAUSOLEUM) ตั้งอยู่ที่จตุรัสบาสติงห์ เคยเป็นที่ที่ลุงโฮได้อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากประเทศฝรั่งเศสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกัน เมื่อวันที่ 02 กันยายน ค.ศ.1945 สุสานนี้สร้างด้วยหินอ่อน หินแกรนิตและไม้มีค่าจากทั่วประเทศ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 หลังจากลุงโฮเสียชีวิต เมื่อวันที่ 02 กันยายน ค.ศ.1969
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านชม ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (HOAN KIEM LAKE) เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงฮานอย เป็นสถานที่เงียบสงบ และมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่าครั้งอดีตพระเจ้าเลไทโต (LE THAI YO) แห่งราชวงศ์เล ได้รับดาบศักดิ์สิทธิ์มาจากเต่าในทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมนี้ ซึ่งนำมาใช้ทำสงครามกับชาวจีนที่เข้ามารุกราน จนสามารถได้รับชัยชนะ ทำให้บ้านสงบสุข เมื่อเสร็จศึกสงครามแล้ว พระองค์ทรงเรือไปกลางทะเลสาบเพื่อคืนดาบวิเศษให้กับเต่ายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ และเต่ายักษ์ได้ขึ้นมาฉกดาบไปจากพระหัตถ์ของพระองค์ แล้วหายไปในทะเลสาบ จึงเป็นเหตุให้ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อว่า ทะเลสาบคืนดาบ และหากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณ ชื่อว่า ทาพรัว (THAP RUA) ซึ่งหมายถึง หอคอยเต่า (TURTLE TOWER) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 มีเต่าเพศเมียขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ชื่อว่า CU RUA เคยอาศัยอยู่ในทะเลสาบนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นร่างอวตารของเต่าในตำนานในปี 1428 ซึ่งเป็นเต่าที่ผู้คนนั้นรัก และเอ็นดู แต่น่าเศร้าที่เต่าตัวนี้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อต้นปี 2559 และคนทั้งประเทศก็เสียใจกับการตายของเธอ เจ้าเต่านั้นถูกดอง และจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติของเวียดนาม
จากนั้นนำท่านอิสระช้อปปิ้งที่ ถนน 36 สาย (THE OLD QUARTER’S 36 STREET) แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตของฮานอย มีต้นไม้ปกคลุมสองฝั่งถนน ชื่อถนน 36 มาจาก 36 อาชีพที่ทำการค้าขายบนถนนแห่งนี้ ตั้งแต่อดีต อย่างเช่นงานด้านหัตถกรรมสอดคล้องกับชื่อถนนแต่ละเส้นในอดีตอย่าง เครื่องเงิน ผ้าไหม แต่ปัจจุบันนี้มีมากกว่า 36 ไปแล้ว ที่นี่จะเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้าเกือบทุกชนิด ร้านขายชุดกีฬา จะมีแทบทุกแบรนด์ เพราะที่นี้เป็นแหล่งผลิตให้กับหลายๆ แบรนด์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก HANOI HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนิงห์บิงห์ (NINH BINH) เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของฮานอย ตัวเมืองติดชายฝั่งทะเล ล้อมรอบด้วยยอดเขากว่า 99 ยอด จึงถือกันว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ โดยคณะปฏิวัติของโฮจิมินห์ก็ได้เคยตั้งฐานทัพขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรกนั่นเอง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) นำท่าน ล่องเรือกระจาดชมถ้ำตามก๊ก (TAM COC) หรือ ฮาลองบก ซึ่งคำว่า TAM COC หมายถึง ถ้ำสามถ้ำ โดยมีตำนานกล่าวว่า ถ้ำนี้เนตรมิตรสร้างโดยสายลมและกระแสน้ำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียง และมีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งใน จังหวัดนินห์บินห์ (Ninh Binh) โดดเด่นด้วยทัศนียภาพของภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน แม่น้ำที่ไหลลัดเลาะไปตามภูเขา และท้องนาสีเขียวขจี นับเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่ยังรักษาความอุดมสมบูรณ์และความงดงามเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือน “กุ้ยหลินของจีน”
ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการนั่งเรือกระจาดชมวิวภูเขาและท้องทุ่ง ล่องเรือตามลำน้ำที่เลี้ยวลดไปกับภูเขาหินปูนและท้องทุ่งนาข้าว เป็นภาพที่สวยงามราวกับหลุดมาจากภาพพู่กันจีนโบราณ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮานอย (HANOI) ให้ท่านอิสระพักผ่อนชมวิวบนรถ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินโหน่ยบ่าย
20.55 น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน THAI AIR ASIA เที่ยวบินที่ FD645 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที)
22.45 น. ถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ ..........
307/5 ซอยพหลโยธิน32 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900